รอคอยกันมานานสำหรับ Microsoft Office สำหรับ iPhone หลังจากที่มีเวอร์ชั่น iPad ไป แต่สามารถใช้งานได้เฉพาะคนที่มี Office 365 เท่านั้น จนไม่กี่วันก่อน Microsoft ได้เปิดตัว Office for iPhone ที่สามารถใช้งานได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องมี Office 365 ทำเอาผมต้องรีบโหลดมาลองใช้ เพราะส่วนตัวแล้ว ใช้งานเอกสารบน iPhone ค่อนข้างมาก หลังจากได้ลองใช้แล้ว ก็ต้องรีบมารีวิวทันที เพราะมันเยี่ยมมากครับ ทั้งการสร้างเอกสารใหม่ การแก้ไข และการทำงานร่วมกับ OneDrive, Dropbox รวมไปถึงสามารถใช้งานฟอนท์ใหม่ๆ ที่เราติดตั้งเองผ่านแอป AnyFont ได้อีกด้วย
ก่อนจะไปดูวิธีติดตั้งและรีวิวการใช้งานคร่าวๆ ของ Office for iPhone ผมขอสรุปข้อจำกัด และฟีเจอร์เด่นๆ ก่อนนะครับ เพื่อความเข้าใจ
1. Microsoft Office for iPhone เปิดให้โหลดฟรี ใช้งานฟรี แต่ต้องโหลดจาก US Store เท่านั้น ยังไม่มีใน Thai Store
2. ก่อนใช้งานจะต้อง Sign in ด้วยบัญชีของ Microsoft (Outlook, Hotmail ฯลฯ) จึงจะเข้าใช้งานได้
3. สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ Office 365 (เสียเงิน) จะสามารถสร้างเอกสาร, แก้ไข, บันทึก, ส่งต่อ ได้ปกติ ยกเว้นบางฟีเจอร์ที่จำกัดไว้เฉพาะคนที่ใช้ Office 365 เท่านั้นที่จะใช้ได้ เช่น บาง effect ใน PowerPoint ฯลฯ
4. การติดตั้งฟอนท์เพิ่มเติม ต้องใช้แอป AnyFont (ราคา 1.99$)
การติดตั้ง Microsoft Office for iPhone
อย่างที่บอกไปว่า ณ ตอนนี้ Office for iPhone ยังไม่มีใน Thai Store มีเฉพาะใน US Store จึงต้องใช้ Apple ID ที่เป็นของ US Store ในการโหลด สำหรับคนที่มีอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคนที่ยังไม่มี Apple ID ของ US Store สามารถอ่านวิธีสมัครได้จาก iPhone-Droid ครับ อธิบายไว้ละเอียดเลย
เมื่อได้ Apple ID ของ US มาแล้ว ก็ให้ทำการ Sign out Apple ID ปัจจุบันที่เราใช้อยู่ แล้ว Sign in ด้วย Apple ID US แล้วทำการโหลด Office for iPhone ซึ่งแยกเป็น 3 ตัว ดังนี้
เสร็จแล้วก็ให้ Sign out จาก US เพื่อ Sign in ด้วย Apple ID TH ของเราแทนครับ (ไม่กระทบกับแอปต่างๆ ที่เคยโหลดมาแล้ว)
การใช้งาน Microsoft Office for iPhone
สำหรับการใช้งาน ผมคงไม่ได้เจาะลึกมากนะครับ แต่จะให้ดูจุดเด่นๆ ที่พอจะอธิบายให้ผู้ใช้ใหม่ๆ พอเข้าใจ ที่เหลือ ต้องไปลองศึกษาและใช้งานกันดูเอาเองครับ ไม่ยากครับ ตัวแอปออกแบบมาให้ใช้งานค่อนข้างง่าย
เมื่อเข้าใช้งานครั้งแรก จะต้อง Sign in ด้วย Microsoft Account ก่อน ใครที่มี Outlook, Hotmail ก็ Sign in ใช้งานได้เลยครับ
——————————————————————————————–
ถัดมาจะเป็นหน้าจอแสดงฟีเจอร์หลักๆ ของ Office for iPhone และสามารถทำการเชื่อมเข้ากับ Dropbox ได้ทันที
——————————————————————————————–
นี่เป็นหน้าตาของ MS-Word for iPhone เมื่อกด New เพื่อสร้างเอกสารใหม่ จะมีรูปแบบสำเร็จรูปให้เลือกพอสมควร หรือจะสร้างแบบ Blank ก็ได้
——————————————————————————————–
ในส่วนของ Account จะแสดงบัญชีบริการต่างๆ ที่เราผูกไว้ ก็จะมี OneDrive เป็นหลัก
——————————————————————————————–
หน้าจอการพิมพ์เอกสารใหม่ใน MS-Word for iPhone เราสามารถพิมพ์ไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้อง return เพราะทางแอปจะขึ้นบรรทัดใหม่ให้ เมื่อสุดขอบระยะกั้นหลัง
——————————————————————————————–
เมนูรูปตัว A ที่มีดินสออยู่ด้วย จะเป็นเมนูสำหรับการแก้ไขรูปแบบตัวอักษร และตรง HOME จะมีเมนูย่อยๆ อื่นๆ เหมือนริบบอนใน Word for PC
——————————————————————————————–
เมนูที่สองจากซ้ายมือบน จะเป็นเมนูเกี่ยวกับการบันทึกไฟล์ และคุณสมบัตไฟล์
——————————————————————————————–
เมื่อพิมพ์งานเสร็จ ให้กด Done จากนั้นให้กดไปที่ลูกศรชี้ไปทางซ้ายมือมุมบนสุด จะมีหน้าจอให้เราเลือกที่สำหรับบันทึกไฟล์ ซึ่งสามารถเก็บได้ทั้งใน iPhone, OneDrive หรือ Dropbox
——————————————————————————————–
ตัวอย่างหน้าจอการเปิดไฟล์ Excel จากไฟล์แนบใน Email ซึ่งสามารถเปิดดูและแก้ไขได้ทันที
——————————————————————————————–
ตัวอย่าง Template ของ PowerPoint ที่มีให้เลือกใช้ คล้ายๆ ใน Office 2013
ผมลองเปิดไฟล์ PowerPoint ที่ใช้ PC สร้าง รูปแบบต่างๆ ไม่เพี้ยนเลยครับ นอกจากฟอนท์
——————————————————————————————–
การติดตั้งฟอนท์ภาษาไทย (โดยไม่ต้องเจลเบรค)
จะเห็นว่า ปัญหาเดียวของ Office for iPhone คือ “ฟอนท์” ที่แสดงผลเพี้ยน เนื่องจากบน PC หลายๆ คนก็อาจมีฟอนท์ที่ใช้เป็นประจำ ซึ่งไม่มีใน iPhone ทำให้การแสดงผลเอกสารเพี้ยนไปจากของจริง ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือ ต้องใช้แอป AnyFont เพื่อติดตั้งฟอนท์เพิ่มเติมลงไปใน iPhone
หลักการทำงานของ AnyFont ก็คือ ตัวแอปเองสามารถติดตั้งฟอนท์ในรูปแบบมาตรฐาน เช่น ttf ลงบน iPhone ได้ แต่ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนฟอนท์ทั้งระบบของ iPhone นะครับเป็นแค่การเพิ่มฟอนท์ให้แอปที่สามารถเปลี่ยนฟอนท์ได้ ดึงฟอนท์ที่เราเพิ่งเองโดยใช้ AnyFont มาใช้งานได้นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นแอปแต่งรูป, แอปด้านเอกสารอื่นๆ รวมถึง Office for iPhone ก็สามารถดึงฟอนท์ที่ AnyFont ติดตั้ง มาใช้ได้
สำหรับ AnyFont นั้น ขายอยู่ที่ 1.99$ ใน App Store (ไทย) หากใครไม่มีบัตรเครดิต ก็สามารถใช้บริการรับฝากซื้อแอปของทาง blog ผมได้เลยครับ
มาดูวิธีการติดตั้งฟอนท์โดยใช้ AnyFont กันเลยดีกว่าครับ
- เมื่อซื้อ AnyFont มาเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการส่งฟอนท์ที่เราต้องการจะติดตั้งเข้าไปใน iPhone ผ่านทาง Email หรือ Dropbox ก็ได้ครับ แล้วแต่สะดวก ผมจะยกตัวอย่างการรับฟอนท์ทาง Email นะครับ
จากไฟล์แนบใน Email ซึ่งเป็นฟอนท์ (นามสกุล .ttf) โดยตัว iPhone จะเปิดไฟล์ชนิดนี้ไม่ได้ แต่ให้เรากดไปที่ตัวไฟล์แนบ จะมีเมนูให้เลือก
จากเมนู ให้เลือก Open in AnyFont เพื่อเปิดฟอนท์ในไฟล์แนบขึ้นมาในแอป
เมื่อ AnyFont เปิดขึ้นมา ก็จะมีรายงานฟอนท์ ให้เรากดไปที่ชื่อฟอนท์อีกครั้ง
จากนั้นกดตรงรูปที่ลูกศรชี้ได้เลย เพื่อทำการติดตั้ง
Safari จะถูกเรียกขึ้นมาเอง ให้กด Install, Next, Install ตามลำดับ (เครื่องใครตั้งรหัสล็อคไว้ จะมีหน้าจอให้ใส่รหัสปลดล็อค 4 หลักด้วย)
จากนั้นก็ Install และ Done เป็นการเสร็จสิ้นการติดตั้งฟอนท์
*ฟอนท์ 2005_iannnnnGMO สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ที่ http://www.f0nt.com/
——————————————————————————————–
ถ้าจะให้ดี หลังการติดตั้งฟอนท์ทั้งหมด ให้ทำการ restart เครื่อง iPhone สักหนึ่งครั้ง โดยการกดปุ่ม home+power ค้างไว้ 15 วินาที จนขึ้นโลโก้ Apple จากนั้นค่อยเปิดใช้งาน Office
ขณะกำลังพิมพ์เอกสาร หากต้องการเปลี่ยนฟอนท์ ก็ทำได้ง่ายๆ โดยการกดปุ่มตัว A ซึ่งเป็นเมนูแก้ไขรูปแบบข้อความ ก็จะมีรายการฟอนท์ให้เลือก โดยมี 2 ส่วนคือ Office Compatible Fonts กับ iOS Fonts สำหรับฟอนท์ที่เราติดตั้งเองนั้น จะอยู่ในส่วนของ iOS Fonts ดังรูปที่ลูกศรชี้
ในรูป ผมลองใช้ฟอนท์ที่เพิ่งติดตั้งไปเมื่อครู่ในการพิมพ์เอกสาร Word ตัวนี้
เมื่อเปิดดูไฟล์ดังกล่าว (ผมบันทึกใน Dropbox) จะพบว่า ฟอนท์ก็จะเป็นไปตามที่เราพิมพ์ไว้ใน iPhone เลยครับ
*ฟอนท์ 2005_iannnnnGMO สามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ที่ http://www.f0nt.com/
——————————————————————————————–
ผมลองเปิดไฟล์เอกสารจริงที่ใช้ TH SarabunPSK ในการพิมพ์บน PC มาเปิดใน Word for iPhone ผลที่ได้ก็ตามรูปครับ ไม่เพี้ยนเลย
——————————————————————————————–
จัดว่าเป็นแอปฟรีที่ต้องมีไว้ติด iPhone กันเลยทีเดียว สำหรับ Microsoft Office for iPhone โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานด้านเอกสารบ่อยๆ แอปนี้จะช่วยได้เยอะเลยครับ ไม่ว่าจะสร้างใหม่ หรือเปิดไฟล์เพื่อแก้ไขขณะที่เราไม่ได้อยู่ที่ทำงาน 🙂
ZaxCop 